มีหนึ่งคำถามยอดฮิตในการสัมภาษณ์งานที่หลายคนอาจเคยผ่านสมรภูมิมาแล้วบ้างกับคำถามที่ว่า…
“อีก 5 ปีข้างหน้า คุณคิดว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร”
สำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมตัวที่จะมาเจอคำถามนี้ก็คงมีชะงักกันไปเล็กน้อย แต่สำหรับคนที่เตรียมตัวมาก็อาจมีคำตอบที่ดูกินขาดและผ่านไปได้ไม่ยาก
แต่เราลองมาทวนดูอีกครั้งแบบจริงจัง ถ้านี่เป็นคำถามที่คุณถามตัวเองเพื่อค้นหาอนาคตแบบจริงๆ ดูล่ะ คุณเคยคิดกันหรือเปล่าว่า อีก 5 ปีข้างหน้าเราจะกำลังทำอะไรอยู่ หรือได้มีการวางแผนสำหรับชีวิตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้หรือไม่? เรื่องการเงินก็เช่นเดียวกัน หลายคนอาจมีการวางแผนที่จะเก็บออมและลงทุนในส่วนต่างๆ ตามแต่จำนวนเงินจะอำนวยหรือมีความสามารถที่จะลงทุนในส่วนใดได้บ้าง
ทุกอย่างคล้ายกับว่าเป็นแค่เรื่องเล่นๆ แต่เรามาลองวางแผนกันให้ตัวเองจริงจังกันดูบ้างดีกว่าไหม เอาเป้าหมายที่ฟังเหมือนง่ายแบบนี้
“อีก 5 ปี ฉันจะกลายเป็นเศรษฐี”
เริ่มต้นอย่างไร เรามีวิธีวางแผนสำหรับอนาคตที่น่าอภิรมย์นี้มาฝากกัน
- ตั้งเป้าหมายพร้อมแสวงหาความรู้
สร้างแรงผลักดันให้ตัวเองเพื่อไปสู่เป้าหมายให้ได้จริง วางแผนกันไปเลย ตอนนี้คุณมีเงินเดือนเท่าไหร่ สมมติอยู่ที่ 15,000 บาท อีก 5 ปี ต้องได้เงินเดือน 50,000 บาท ทีนี้จะทำอย่างไร ก็ให้ลองมองดูสายงานของตัวเองว่าสามารถเรียนอะไรเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มทักษะให้กับตัวเอง หรือกล่าวง่ายๆ ว่าเป็นการเพิ่มคุณสมบัติที่จะทำให้คุณได้ง่ายที่ดีและรายได้ที่ดีขึ้นนั่นเอง
- สร้างทัศนคติใหม่กับ “เงินตรา”
เงินคือตัวสร้างความมั่งคั่งให้กับเรา ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องสร้างทัศนคติใหม่ให้กับมัน สร้างบทบาท เปรียบเงินให้เหมือนคนในครอบครัว ต้องรู้จักใช้และทนุถนอม แบบนี้แล้วก็จะทำให้แผนการออมเงินของเราเป็นไปอย่างดีมากขึ้น เพราะเรารู้จักใช้เงินมากขึ้น
- ให้เงินทำงาน
ในขณะที่คุณกำลังหลับ รู้หรือไม่ว่า “เงิน” ไม่ได้หลับตามคุณไปด้วย ดังนั้น สิ่งที่เรากำลังจะกล่าวก็คือ เมื่อคุณมีเงินก็ต้องเสาะแสวงหาทางที่จะให้มันทำงานด้วยตัวเอง เช่น การนำเงินไปลงทุน กระจายไปตามการลงทุนในหลายๆ ลักษณะ แบบนี้จะทำให้เรามองเห็นโอกาสเพิ่มขึ้น
- การไม่มีหนี้นั้นเป็นลาภอันประเสริฐ
ที่สุดของคนจะกลายเป็นเศรษฐีได้กุญแจสำคัญคือ ต้องไม่มีหนี้ หรือหากเป็นหนี้ก็ต้องไม่เป็นหนี้สูญ เช่น การใช้จ่ายไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น สิ่งของฟุ่มเฟือย ไม่เหมือนกับการซื้อรถ ผ่อนรถ เพื่อนำรถไปใช้ในการขนส่งขายของ แบบนี้ถือว่าเป็นหนี้ที่ยอมรับได้ จำไว้ว่า คนรวยมักสร้างหนี้เพราะต้องการขยายการลงทุนหรือก่อให้กิดรายได้เพิ่ม แต่คนจนมักสร้างหนี้เพราะต้องการแสดงออกถึงความร่ำรวย
และนี่ก็คือ 4 วิธีที่จะทำให้เป้าหมายที่ว่า “อีก 5 ปี ฉันจะกลายเป็นเศรษฐี” เป็นจริงได้ แต่ทั้งนี้ทุกข้อจะเห็นว่าต้องขึ้นอยู่กับวินัยและกำลังใจของตัวคุณเองด้วย