ในยุคสมัยที่หลายคนเริ่มมีความต้องการที่อยากสร้าง “ตัวตน” การประกอบธุรกิจส่วนตัวจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครหลายคน
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินที่อยากมีรายได้เสริม คนที่วางแผนประกอบธุรกิจอยู่แล้วหรือแม้แต่นักเรียนนักศึกษาเองก็ตาม ซึ่งต้องปัญหาที่หลายคนประสบเหมือนกันก็คือเรื่องของ “ทุน” ที่บางรายมีทุนที่จำกัด ดังนั้น เรื่องของการวางแผนให้รัดกุมจึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ดี เมื่อทุนมีน้อยเราจะสามารถหามาเพิ่มเติมหรือบริหารจัดการอย่างไรได้บ้าง
เรามีทักษะการลงทุนสำหรับคนทุนน้อยมาฝากกัน!
แมวมองหาของมาทำทุนต่อ
เราอาจจะเรียกวิธีแมวมองนี้ว่าการทำ “รีเซลลิ่ง” ซึ่งถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ ก็คือ การที่เราไปเล็งหาของที่ดูดีมีคุณสมบัติพอที่น่าจะจับเอามาขายต่อได้ราคาดีจากแหล่งขายส่ง แล้วนำมาขายปลีกเพิ่มมูลค่าด้วยเรื่องราวใหม่ๆ ในมุมมองของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น เครื่องประดับขายส่ง คุณสามารถนำมาแยกเซ็ทสีแล้วตั้งชื่อใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ แบบนี้ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่เบาเลยใช่หรือไม่?
หรือแม้แต่การมองหาสินค้าดี ๆ มาขายต่อ ไม่ว่าจะเป็นสินค้ามือสองตามตลาดขายของเก่าหรือสินค้าโอท็อปจากชุมชนแล้วนำมารีแพ็กเกจใหม่เพื่อขายต่อผ่านเว็บไซต์อย่าง Lazada,OLX หรือเว็บน้องใหม่อย่าง Kaidee.com ซึ่งล้วนแต่เป็นธุรกิจรีเซลลิ่งที่เป็นตัวกลางขายสินค้าระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายนั่นเอง
งานบริการก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี
ขายทักษะและบริการ อีกวิธีเริ่มต้นธุรกิจโดยไม่ต้องใช้เงินทุนมาก แต่ต้องลงแรง บวกทักษะจากประสบการณ์และบริการของเราเอง เช่น นักตรวจสอบบัญชี พี่เลี้ยงเด็ก ครูสอนพิเศษ เทรนเนอร์ออกกำลังกาย หรือสอนทำอาหารก็ได้ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ คุณภาพของผลงานหรือผลลัพธ์การสอนที่ลูกค้าเห็นว่าได้ประโยชน์จริง ๆ และการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเพื่อให้เกิดการบอกต่อเป็นวิธีสร้างแบรนด์ของเราให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ทั้งนี้ อาจเริ่มต้นจากคนใกล้ตัว อาจจะสอนฟรีให้เค้าเห็นถึงประโยชน์จากทักษะของเรา แล้วให้ช่วยมองหาช่องทางใหม่ๆ ก่อนขยายวงเป็นเพื่อนในหมู่บ้านเพื่อนในเว็บไซต์ ทำให้เกิดการบอกต่อกันไป แบบนี้ก็ไม่ต้องเสียเงินเพื่อประชาสัมพันธ์ ลดต้นทุนได้อีกทางหนึ่ง
ลงทุนจากความถนัดที่มี
หากเราได้ลองทำสินค้าที่มาจากความถนัด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฮนด์เมดที่ไม่เหมือนใคร แม้การลงมือทำจะหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้ แต่เมื่อผลิตภัณฑ์นั้นขายได้ และขายได้มากกว่าสิ่งที่ลงทุนลงแรงไป ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่ามีแบรนด์เกิดใหม่มากมายที่เริ่มต้นจากงานแฮนด์เมดที่ไม่ได้มีต้นทุนสูง แต่ก็มีความแตกต่างที่สามารถดึงดูดผู้คนให้สนใจในตัวสินค้าได้แบบง่ายๆ ซึ่งแบบนี้อาจเป็นการเริ่มต้นที่ง่ายด้วยการทำการค้าบนเว็บออนไลน์ที่มีบริการให้ใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเว็บประกาศขายของฟรี หรือแม้แต่ที่นิยมมากๆ ในโลกโซเชียลอย่าง Facebook หรือ Instagram
ที่สุดแล้วการเริ่มต้นธุรกิจต้องรู้จักวางแผน คิดใหม่ทำใหม่ มีความฉลาดในการคิดนอกกรอบ ที่สำคัญที่สุดต้องมีความรักในสิ่งที่กำลังทำ เพราะเมื่อเราสนุกกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ อุปสรรคที่ว่ายากก็อาจเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณอาจได้เรียนรู้และสนุกสนานไปกับธุรกิจนี้