เข้าหน้าฝนแบบนี้ทีไร มักจะมีข่าวอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ซึ่งเกิดจากการที่รถใช้ความเร็วแล้ววิ่งมาเจอเข้ากับแอ่งน้ำที่ขังอยู่บนถนน ทำให้อาการลื่นไถล ควบคุมรถไม่ได้ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุตาม
รู้จักกับอาการเหินน้ำ
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับอาการเหินน้ำ หรือก็คือ อาการของยางรถยนต์ที่หมุนไปเหนือชั้นของน้ำ ทำให้ยางไม่เกาะกับผิวถนน อาจเกิดขึ้นได้ทุกครั้งที่ขับฝ่าน้ำฝนท่วมขังเป็นแอ่งเล็ก ๆ บนถนนหรือวิ่งฝ่าสิ่งสกปรกยามเกิดฝนตกหนัก เช่น โคลน เลนที่อยู่บนพื้นผิวถนน ทำให้สูญเสียการควบคุม
ตัวแปรที่ทำให้เกิดอาการเหินน้ำ
• การขับรถเร็วเกินไปบนถนนที่เปียกลื่น ยิ่งขับด้วยความเร็วสูงมากเท่าไร โอกาสที่ล้อจะรีดน้ำได้ทันนั้นจะยิ่งน้อยลงมากก่อให้เกิดอาการเหินน้ำได้มาก
• น้ำหนักของรถยนต์ที่เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่มีความสำคัญ แอ่งน้ำมักทำให้รถบรรทุกเสียหลัก เนื่องจากรถบรรทุกนั้น ยิ่งมีน้ำหนักมากเท่าไร เมื่อเสียการควบคุมแล้ว แรงเฉื่อยจะยิ่งมากกว่ารถคันเล็ก ๆ
• ดอกยางของรถยนต์ ลักษณะของดอกยาง ความลึกของดอกยาง เป็นสิ่งสำคัญที่จะใช้สำหรับการยึดเกาะและรีดน้ำ รวมทั้งดอกยางที่หมดอายุการใช้งานจะแข็งและไม่มีแรงจิกเมื่อเบรก ทำให้มีอาการลื่นไถลเมื่อเจอเข้ากับถนนลื่น ๆ
ลักษณะของพื้นผิวถนน หากผิวถนนในช่วงที่มีน้ำท่วมขังเล็ก ๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากฝนตกหนักจนกลายเป็นแอ่งน้ำ เมื่อผิวถนนเป็นพื้นคอนกรีต โอกาสเกิดอาการเหินน้ำสูญเสียการควบคุมทิศทางจะง่ายกว่าถนนที่มียางมะตอย แต่ถนนลาดยางมะตอยจะลื่นมากกว่าเมื่อเกิดฝนตก ไม่ว่าจะเป็นผิวถนนแบบใดก็ไม่ควรใช้ความเร็วสูงขับฝ่าแอ่งน้ำอย่างเด็ดขาด
วิธีป้องกันอาการเหินน้ำ
• ขับรถให้ช้าลงเมื่อฝนตก หรือถนนลื่น ไม่ควรขับรถเร็วเกิน 70 – 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• ควรใส่ใจตรวจดูยางรถยนต์เป็นประจำ เพราะดอกยางที่สึก และลมยางอ่อนเกินไป มีส่วนทำให้เกิดอาการเหินน้ำได้
• เว้นระยะห่างจากคันข้างหน้า เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
• ขับรถในเลนกลางเพราะแอ่งน้ำขังมักอยู่เลนนอก
การใช้เบรกเมื่อเสียหลัก
เมื่อรถที่คุณขับเกิดอาการเสียหลักอย่างรุนแรงแล้ว จะต้องควบคุมรถยังไงดี?
1. อันดับแรกต้องตั้งสติ อยากตื่นตกใจ อย่าหักเลี้ยวฉับพลัน และห้ามกระแทกเบรกเป็นอันขาด
2. จากนั้นให้ผ่อนคันเร่งลดความเร็วลง จับพวงมาลัยให้มั่น แล้วค่อย ๆ เหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็ว แต่ในกรณีที่รถของคุณมีระบบ Anti-Brake lock System (ABS) อย่าย้ำเบรก ให้เหยียบยาวไปเลย รถจะค่อย ๆ หยุดไถลลื่นได้เอง
3. ในกรณีที่รถหมุน ให้บังคับพวงมาลัยสวนทางกับทิศทางที่เลี้ยว เช่นหากโค้งซ้ายท้ายรถจะเหวี่ยงออกไปทางขวาก็ให้หมุนพวงมาลัยไปทางขวา เพื่อบังคับล้อหน้าให้กลับเข้าสู่ทิศทางที่ถูกต้อง และเกิดแรงต้านทำให้รถหยุดหมุนในที่สุดครับ
ทางที่ดีที่สุดก็คือการไม่ประมาท มีสติ และขับรถด้วยความระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญต้องหมั่นตรวจสภาพของรถยนต์เป็นประจำ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เกิดอุบัติเหตุน้อยลงได้ครับ
ขอบคุณที่มาจาก : https://bit.ly/2XoYBrP