หลายๆ คนคงเคยสงสัยว่าทำไมเราถึงมีปัญหาเรื่องเงินทุกที วิธีการใช้เงินของเรานั้นทำไมถึงทำให้เราไม่ไปถึงเป้าหมายเสียที ปัญหามันอยู่ตรงไหนกันทำไมถึงหาไม่เจอเสียที
ถ้าคุณมีความคิดแบบนี้อยู่ในหัวของคุณเองแล้วล่ะก็… เราขอแนะนำว่าให้คุณลองคิดดูใหม่ ว่าการใช้เงินของคุณนั้นมันถูกต้องแล้วหรือไม่ ลองมา Rethink ดูใหม่ว่าเราใช้เงินเป็นจริงหรือเปล่ากันแน่ๆ
ถ้าหากคุณไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เรามีวิธีการใช้เงินแบบง่ายๆมาให้คุณลองดูเป็นแนวทางในการใช้เงินกัน

Mid section casual man with piggy bank in living room
๑. จัดสรรงบประมาณที่ใช้ได้ใน 1 วัน
หลายคนอาจจะเถียงว่าตนเองนั้นทำข้อนี้แล้วนะ แต่ทำไมผลลัพธ์ยังเหมือนเดิม คำตอบมีอยู่ 2 อย่างที่เป็นไปเลย คือ วางแผนไว้แล้วแต่ทำตามไม่ได้ และวางแผนไว้แล้ว ทำตามแล้ว แต่ยังไม่พอต้องมีการกระทำอื่นๆมาเสริม ซึ่งเราอาจจะดูได้ในข้อต่อไป ส่วนอีกพวกก็คือพวกที่ยังไม่ได้จัดสรรเงินที่ต้องใช้เลย ที่นี้กลับมาที่การจัดสรรเงิน แน่นอนว่าหนทางเดียวที่เราจะสามารถใช้เงินได้อย่างพอดีกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เราต้องจ่ายก็คือการจัดสรรเงินในส่วนต่างๆ ให้พอดี ส่วนไหนต้องจ่ายค่าใช้จ่ายจำเป็น ส่วนไหนต้องจ่ายเพื่อการดำรงชีวิต และส่วนไหนที่จะเก็บ ต้องแบ่งให้ชัดเจนและไม่มีการหยิบยืมเงินกันข้ามกลุ่มเด็ดขาด
๒. เปิดบัญชีออมทรัพย์ไว้ 2 บัญชี
บัญชีแรกไว้ใช้เก็บเงินแบบไม่เบิกออกมาเลยถ้าไม่จำเป็น ส่วนบัญชีที่สองคือบัญชีที่เราเอาไว้เก็บเงินที่เราต้องเบิกออกมาใช้ การแบ่งบัญชีออมทรัพย์เป็น 2 บัญชีแบบนี้ จะช่วยให้การจัดสรรงบประมาณของเราทำได้ดีขึ้นนั่นเอง ถ้าหากกลัวจะเอาเงินมาใช้ก็ไปเลือกตั้งระบบโอนเงินจากบัญชีใช้จ่ายปกติเข้าบัญชีที่ไว้สำหรับเก็บเงินอัตโนมัติไปเลย และถ้าเอาแบบซูเปอร์เซฟก็ต้องทำบัตรเอทีเอ็มแค่ใบเดียวคือสำหรับบัญชีใช้จ่ายปกตินั่นเอง เวลาคิดจะเบิกเงินจากบัญชีที่ไว้สำหรับเก็บเงิน เราจะได้คิดก่อนหลายๆ รอบ ที่นี้มาลองถามตัวเองดูว่าเราได้แยกบัญชีอย่างนี้หรือไม่ ถ้าหากมีปัญหาแบบตั้งแต่ข้อ 1 มาแล้วแนะนำให้เริ่มข้อนี้เลย
๓. ใช้จ่ายอย่างมีสติ
โดยเฉพาะคนที่มีบัตรเครดิตหรือเดบิต เพราะไอ้ความที่จ่ายได้ง่ายของมันนี่แหล่ะมันจะสร้างค่าใช้จ่ายหรือหนี้สินให้เราโดยไม่รู้ตัวอยู่เสมอ สำหรับบัตรเดบิตอาจจะไม่เท่าไหร่เพราะมันเห็นๆกันอยู่เวลาเรากดเงินว่ามันมีเงินที่หายไปจากบัญชี แต่สำหรับบัตรเครดิตนั้นเวลาที่เราใช้ เงินมันไม่ได้หายไปไหนเลย ณ ตอนนั้น แต่กลับมีหนี้ก้อนหนึ่งขึ้นมา ซึ่งจะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้จ่ายของเรานั่นเอง ซึ่งหนี้ก้อนนี้จะอยู่กับเราไปอย่างน้อย 3 เดือน แถมยังมีดอกเบี้ยมาทำให้เงินที่ต้องจ่ายนั้นมากกว่าราคาจริงของสิ่งของที่เราซื้ออีกด้วย ดังนั้นก่อนที่จะใช้จ่ายอะไร จำไว้เสมอว่าต้องใช้จ่ายอย่างมีสติ โดยเฉพาะคนที่มีบัตรเครดิตหรือเดบิตอยู่ในมือนั่นเอง ข้อนี้อาจจะไม่จำเป็นสำหรับคนที่ไม่มีบัตรเครดิตหรือเดบิต
๔. เข้าครัวทำกับข้าวเองบ้าง
หากคุณมีปัญหาเรื่องการทำอาหารก็อาจจะเป็นเรื่องที่ยากสักหน่อย แต่การหัดทำอาหารแบบง่ายก็อาจจะช่วยคุณได้ อย่างน้อยๆก็พยายามลดการกินอาหารนอกบ้านลงหน่อย เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายลง เพราะนอกจากจะมีค่าอาหารแล้ว ยังมีค่าภาษีท้องถิ่นที่ต้องจ่าย ค่า Service Charge และค่าเดินทางในการไปกินอีกด้วย และใครที่อยากทำตามข้อนี้ เราแนะนำให้ลองคิดเมนูไว้ล่วงหน้าทั้งอาทิตย์และลองเลือกเมนูอาหารที่มีส่วนผสมคล้ายกันดู เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อของลง และเรายังไม่ต้องออกไปซื้อของบ่อยให้เปลืองเวลาและค่าเดินทางอีกด้วย นอกจากนี้การทำอาหารกินเองยังมีผลดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วย เพราะรับประกันได้ว่าปลอดภัยชัวร์ๆ
๕. หาเวลาจำศัพท์การเงิน
เวลาที่อ่านเจอบทความที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงินจะได้รู้เรื่อง อาจจะยากในช่วงแรก แต่นานๆ ไปก็จะชิน สำหรับผู้เริ่มต้น เราขอแนะนำ Wallstreetoasia.com เลย ความรู้แบบเข้าใจง่าย ศึกษาได้ด้วยตนเอง
มาถึงตอนนี้คุณอาจจะรู้แล้วว่าการใช้เงินของคุณเป็นอย่างไร ด้วยการลองปรับวิธีคิดใหม่ว่าคุณใช้เงินเป็น หรือมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน หากใครอยากจะเริ่มก็เสียตั้งแต่วันนี้เลยจะได้พลิกชีวิตให้เป๊ะมากขึ้น!