“การออมเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่ง” นี่เป็นหลักการที่เรียบง่ายมากแต่กลับยากในเชิงปฏิบัติ อีกทั้งบางคนยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มออมอย่างไร หรือจัดลำดับความสำคัญของเงินออมแบบไหนถึงจะดี จึงขอยกเอา “สมการความมั่งคั่ง”
ที่เชื่อว่าถ้าทุกคนได้ลองเอาไปใช้ในชีวิตจริงแล้วมีโอกาสที่จะเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ได้ไม่ยาก
สมการความมั่งคั่ง
รายได้ – เงินออม = รายจ่าย |
อย่างแรกที่ต้องทำคือ การปรับเปลี่ยนความคิด (Mind Set) หากเรามัวแต่ใช้วิธีคิดแบบเดิมว่า เมื่อมีรายได้เข้ามาหลังนำไปใช้จ่ายแล้วเหลือเท่าไรก็ค่อยเอาไปเก็บเป็นเงินออม มันเป็นเรื่องยากมากที่เราจะทำได้และความคิดนี้ก็ล้าสมัยไปแล้ว เพราะถ้าจะให้ประสบผลสำเร็จคุณจะต้องนึกถึงเรื่องการออมก่อนจ่ายเสมอ! เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมีคนพิสูจน์มาก่อนเราแล้วว่า ถ้าเราเก็บเงินออมก่อนแล้วค่อยนำที่เหลือมาใช้จ่าย เราสามารถอยู่ได้ด้วยเงินส่วนที่เหลือนี้
เมื่อรู้แล้วว่าจะเริ่มต้นออมอย่างไร บันไดขั้นถัดไปก็คือการเรียนรู้ว่าเราควรจัดสรรเงินออมเพื่อเป้าหมายอะไร ซึ่งการที่เป้าหมายการออมมีความสำคัญก็เพราะว่ามันจะช่วยเราจัดลำดับและช่วยให้เราบริหารเงินออมได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเราสามารถเรียงลำดับการออมตามเทคนิค “แบ่งเงินเก็บ 3 ตะกร้า” ที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายการออมเงินในแต่ละขั้นได้
ตะกร้าที่ 1 : เงินออมเผื่อฉุกเฉิน
เงินออมส่วนนี้ควรเป็นเป้าหมายแรกในการออมเงิน เนื่องจากชีวิตคนเรามักจะมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นอยู่เสมอ การเตรียมรับมือด้วยเงินออมเผื่อฉุกเฉินจึงเป็นการสำรองเงินให้เราไว้ใช้จ่ายในยามขับขัน เพราะถ้าถึงคราวจำเป็นต้องใช้เงินอย่างกะทันหัน เช่น เกิดประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย ตกงาน น้ำท่วมบ้าน หรือเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดไว้ เงินส่วนนี้ก็เหมือนเป็นเบาะนุ่มๆ ที่คอยรองรับเรายามที่พลาดพลั้งหรือการดำเนินชีวิตเกิดสะดุด
ตามหลักการทั่วไปเงินออมเผื่อฉุกเฉินเราควรจะมีอยู่ประมาณ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งการเก็บเงินตะกร้านี้ควรจะเก็บให้เพียงพอก่อนเป็นลำดับแรก หลังจากนั้นจึงค่อยเก็บออมในตะกร้าใบอื่นหรือเป้าหมายอื่น ๆ ต่อไป
ตะกร้าที่ 2 : เงินออมระยะสั้นและระยะกลาง
สำหรับการออมเงินในตะกร้านี้เรียกได้ว่ามีไว้เพื่อสร้างความสุขและเติมเต็มความฝันเล็กๆ ของเรา เช่น ความตั้งใจเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเป็น iPhone รุ่นล่าสุด การเก็บเงินดาวน์รถยนต์หรือเงินดาวน์บ้านในฝัน ทุนการศึกษาบุตร ท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้สามารถเป็นจริงได้ในระยะเวลาสั้นหรือระยะกลาง
เป้าหมายระยะสั้นส่วนใหญ่จะเป็นการตั้งกรอบเวลาที่เราสามารถทำให้บรรลุผลสำเร็จได้ในระยะ 1 ปี ส่วนระยะเวลาปานกลางก็ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป อาจจะเป็น 3 ปี 5 ปี หรือประมาณ 10 ปีก็ได้ ทั้งนี้เราสามารถมีบัญชีเงินออมระยะสั้นและระยะกลางแบ่งแยกไว้ได้หลายบัญชี เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและง่ายต่อการจัดการ
ตะกร้าที่ 3 : เงินออมระยะยาว
ในตะกร้าใบที่ 3 นี้จะเป็นการออมเงินที่มีเป้าหมายความสำเร็จในระยะยาว โดยประกอบด้วย 2 เป้าหมายหลัก คือ เงินออมสำหรับวัยเกษียณ และเงินลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ซึ่งทั้ง 2 เป้าหมายนี้ต้องอาศัยระยะเวลาและการจัดสรรการลงทุนที่เหมาะสมจึงจะประสบความสำเร็จได้
ในส่วนของการออมเงินเพื่อวัยเกษียณถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะวัยเกษียณเป็นช่วงเวลาที่เราไม่สามารถทำงานเพื่อสร้างรายได้ได้แล้ว อีกทั้งกษียณอการจัดการมสับสนที่ทำใหเอง ์จะเกิดก็ก็ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้เราสามารถเกษียณจากร็วมายระังจากนั้นจึงค่อยออมในตะกร้าอื่นๆายในควรเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามต้องการหลังจากที่ต้องทำงานมาโดยตลอดระยะเวลาหลายปี ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเริ่มวางแผนและออมตั้งแต่เนิ่นๆ
ด้านการออมเพื่อลงทุนสร้างความมั่งคั่ง ประเด็นนี้ต้องบอกว่าเป็นตัวกระตุ้นให้เราสามารถมีอิสรภาพทางการเงินและช่วยให้เราเตรียมพร้อมสำหรับการเกษียณอย่างมีความสุขได้เร็วขึ้น เพราะแม้ว่าจำนวนเงินลงทุนจะไม่มากแต่หากเริ่มต้นได้เร็วโดยลงทุนอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับความสามารถในการรับความเสี่ยง รวมถึงถูกต้องตามวัตถุประสงค์ เงินจำนวนนี้ก็จะงอกเงยสร้างรายได้และเพิ่มความมั่งคั่งให้กับเรา ทั้งยังมีโอกาสเป็นไปได้ว่าอาจจะทำให้เราสามารถเกษียณจากการทำงานก่อนอายุจะถึงวัย 60 ปีอีกด้วย
การออมเพื่อสร้างความมั่งคั่งตามแนวทางการแบ่งเงินเก็บ 3 ตะกร้านี้ จะเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับคนที่รู้หลักการแล้วรีบลงมือทำ เพราะอย่าลืมว่ายิ่งเราเริ่มต้นได้เร็วเท่าไร เราก็จะยิ่งเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น และควรระลึกไว้เสมอว่าความมั่งคั่งจะไม่เป็นแค่ความฝัน แต่เป็นสิ่งที่เราสามารถทำให้เป็นจริงได้ด้วยตัวเราเอง