รู้หรือไม่ว่า การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายเงินในแต่ละวัน เปรียบเสมือนเป็นการวางแผนการใช้จ่ายให้ถูกวิธี ช่วยบ่มเพาะนิสัยฝึกให้เรามีระเบียบวินัยในการใช้จ่ายเงินให้มากขึ้น
ซึ่งจะทำให้เรารู้ถึงแหล่งที่มาของรายได้ (รายรับ) ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆที่ไม่จำเป็น (รายจ่าย) ซึ่งจะทำให้เราควบคุมและบริหารจัดการเงินให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเราสามารถแบ่งประเภทและความหมายของ “รายรับ” และ “รายจ่าย” ได้ดังนี้
รายรับ คือ สิ่งที่บ่งบอกช่องทางการได้มาของเงินว่ามาจากทางใดบ้าง
- รายรับหลัก = ค่าแรงหรือเงินเดือนที่ได้รับในแต่ละเดือนอย่างสม่ำเสมอ
- รายรับเสริม = รายได้ที่เพิ่มเติมจากช่องทางหลัก เช่น การลงทุน, อาชีพเสริม, งาน part-time เป็นต้น
รายจ่าย คือ รายการๆจ่ายเงินในแต่ละครั้งของตัวเรา ว่ามีอะไรบ้าง สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท
- รายจ่ายหลัก = ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในจำนวนคงที่หรือสม่ำเสมอเป็นประจำ เช่น ค่าดาวน์บ้าน, ค่าผ่อนรถ, ค่าเช่าห้องพัก เป็นต้น
- รายจ่ายแปรผัน = ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง และมีจำนวนไม่เท่ากันสม่ำเสมอ เช่น ค่าช้อปปิ้ง, เดินทางท่องเที่ยว, ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
หลายๆคนอาจจะมองข้ามหรือละเลยในการทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย เพราะมองว่าเป็นเรื่องที่ลำบากและยุ่งยาก อุตส่าห์ทำงานหาเงินมาทั้งวันแล้วยังต้องมานั่งจดนั่งเขียนแบบนี้อยู่อีกเหรอ?
อันที่จริงแล้วการทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายนั้นมีประโยชน์อย่างมาก อาทิ
- ช่วยบันทึกการใช้จ่ายเงินที่เกิดขึ้นแต่ละวัน
- ทำให้รู้ว่าสิ่งไหนควรประหยัดและสิ่งไหนที่ใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น
- ฝึกให้มีความรับผิดชอบมากขึ้น
- ฝึกการวางแผนการใช้เงินและพัฒนาการทำงานให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
- สามารถบริหารการเงินให้มีประสิทธิภาพคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
หากได้ลองทำแล้ว จะทำให้เรารู้ถึงรายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือน ว่ามีช่องทางหาเงินจากทางไหนบ้างเพียงพอหรือไม่ ช่วยให้สามารถตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้มีเงินเหลือเก็บออมมากยิ่งขึ้น เช่น ค่ากาแฟ, ค่างานเลี้ยงสังสรรค์,และค่าชอปปิ้งของที่ไม่จำเป็น ซึ่งสิ่งของบางอย่างนั้น ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ บางทีซื้อมายังไม่อาจจะใช้ประโยชน์อะไรได้มากนัก เพียงแต่ซื้อมาเพราะตอบสนองอารมณ์ความอยากก็แค่นั้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เงินทองรั่วไหลเก็บออมไว้ไม่ได้นั้นเอง