เชื่อว่าหลายๆคนในที่นี้ คงเคยประสบกับเหตุการณ์และคำถามเหล่านี้กันมาก่อน ยิ่งถ้าเป็นช่วงวัยที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยแล้ว คงต้องมีปวดหัวกับการตัดสินใจว่าควรเลือกซื้ออะไรก่อนหลังดี เนื่องด้วยรายรับที่มีจำกัดและเงินเก็บก็มีไม่ได้มาก ซึ่งสุดท้ายคงหนีไม่พ้นต้องกู้หนี้ยืมสินจากสถาบันการเงินอย่างแน่นอน
สำหรับคำถามนี้จริงๆแล้ว บ้านคือคำตอบที่ดีกว่ารถอย่างแน่นอน แต่ทว่าจะดีกว่าจริงหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับหลายๆองค์ประกอบที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งในด้านของเงื่อนไขในการผ่อนชำระ, สภาพคล่องทางการเงิน, รายรับของผู้กู้, และความจำเป็นในการใช้งานของแต่ละบุคคล ลองไปดูกันว่าเหตุผลของการซื้อรถหรือซื้อบ้าน แบบไหนจะเหมาะสมมากกว่ากัน เผื่อจะช่วยในการตัดสินใจให้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
เหตุผลที่คนซื้อบ้านก่อนรถ
- อสังหาไม่ว่าจะเป็น บ้าน, คอนโด, ตึกแถว และอาคารพาณิชย์ ล้วนแต่จะมีมูลค่าสูงขึ้นตามกาลเวลา ยิ่งถ้าสามารถเปิดร้านขายของหรือปล่อยเช่าได้ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับตัวคุณเองเพิ่มมากยิ่งขึ้น
- แม้ผ่านไปนานหลายสิบปี มูลค่าของบ้านและที่ดินมีแต่จะเพิ่มสูงมากขึ้น แตกต่างกับรถยนต์ที่มีค่าเสื่อมและสึกหรอ หากผ่านไปนานก็มีแต่จะตกรุ่นและราคาเริ่มตกลงตามสภาพการใช้งานอีกด้วย
- รถยนต์มีค่าใช้จ่ายจุกจิกหลายส่วน เช่น ค่าประกันรถยนต์, ค่าน้ำมัน, ค่าบำรุงรักษา ซ้ำร้ายยิ่งทุกวันนี้ที่จอดรถก็ยังหายาก ต้องเสียค่าที่จอด อีกทั้งรถยังติดอีกต่างหาก ซึ่งสมัยนี้เราสามารถหันไปใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นทางเลือกได้ทั้ง รถไฟฟ้า, รถเมล์, มอเตอร์ไซต์รับจ้าง, รถสองแถว, เรือด่วน เป็นต้น
เหตุผลที่คนซื้อรถก่อนบ้าน
- ซื้อบ้านต้องใช้เงินเยอะ และต้องเป็นหนี้ระยะยาวถึง 20-30 ปี แต่รถเป็นหนี้เพียงแค่ 5 ปีก็สามารถได้ขึ้นชื่อว่ามีทรัพย์สินมาไว้ในครอบครองแล้ว
- บางบริษัทอาจมีช่วยเหลือค่าใช้จ่ายรถยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นค่าน้ำมันและค่าเสื่อม เพียงเท่านี้ก็ประหยัดไปได้พอสมควร อีกทั้งด้วยภาระหน้าที่ของบางอาชีพ อาจมีความจำเป็นต้องใช้รถเพื่อเดินทางติดต่อธุรกิจที่สำคัญก็เป็นได้
- ยังไม่มีความจำเป็นต้องซื้อบ้าน เพราะว่ายังสามารถอาศัยอยู่กับครอบครัวได้
ทั้งหมดนี้คงจะได้ความแน่ชัดแล้วว่า ควรซื้อรถหรือบ้าน อันไหนก่อนดีกว่ากัน และอีกจุดที่สำคัญเราควรวางแผนการเงินให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อด้วยนะครับ จะได้ไม่เป็นภาระหนักกับตัวเราในอนาคต